ตัดกรามคืออะไร? คู่มือศัลยกรรมปรับรูปหน้าที่ควรรู้ ก่อนตัดสินใจทำจริง

การตัดกราม เป็นการศัลยกรรมโครงหน้าที่ช่วยลดขนาดกรามและปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีใบหน้าเหลี่ยมหรือกรามกว้างเกินไป โดยหลักๆจะเป็นการตัดแต่งกระดูกส่วนเกินและปรับแนวกรามให้สมดุล ส่งผลให้ใบหน้าดูละมุ่นและสมส่วนมากขึ้น

ก่อนตัดสินใจ หลายคนมักมีคำถามว่า การผ่าตัดกรามทำอย่างไร? เจ็บหรือไม่? ต้องพักฟื้นนานแค่ไหน? บทความนี้ได้รวบรวมทุกข้อมูลที่ควรรู้ ตั้งแต่ขั้นตอนการผ่าตัด ระยะเวลาในการพักฟื้น ผลลัพธ์ที่คาดหวัง ไปจนถึงรีวิวเคสจริงจากโรงพยาบาลศัลยกรรม AB ประเทศเกาหลี เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น

ตัดกรามคืออะไร? ทำไมคนไทยจึงนิยมบินไปทำที่เกาหลี

จุดประสงค์ของการตัดกราม

การตัดกราม คือการศัลยกรรมปรับโครงหน้าเพื่อลดขนาดกระดูกบริเวณมุมกรามที่กว้างหรือยื่นออกมา

ศัลยแพทย์จะทำการตัดแต่งและปรับแนวกระดูกให้ได้สัดส่วนที่เหมาะสมกับรูปหน้า ผลลัพธ์คือใบหน้าที่เรียวขึ้น

ลดความเหลี่ยมหรือความแข็งของใบหน้า และช่วยให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูละมุนและอ่อนโยนมากกว่าเดิม

ทำไมคนไทยถึงนิยมบินไปทำศัลยกรรมที่เกาหลี?

ความเชี่ยวชาญของทีมแพทย์เกาหลี

ศัลยแพทย์เกาหลีมีประสบการณ์ยาวนานในการผ่าตัดโครงหน้า

สามารถออกแบบการผ่าตัดให้เหมาะสมกับโครงสร้างกระดูกและกล้ามเนื้อของแต่ละบุคคลได้อย่างละเอียดและแม่นยำ

เทคโนโลยีและเครื่องมือที่ทันสมัย

โรงพยาบาลศัลยกรรมในเกาหลีมักใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น การสแกน 3D CT เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างใบหน้าอย่างครบถ้วนก่อนการผ่าตัด

ทำให้การวางแผนมีความแม่นยำสูง ลดความเสี่ยง และเพิ่มความปลอดภัย

มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

ตั้งแต่ขั้นตอนการดมยาสลบ การติดตามสัญญาณชีพ ไปจนถึงการดูแลหลังการผ่าตัด 

โรงพยาบาลในเกาหลีมีมาตรฐานการดูแลที่เข้มงวด เพื่อป้องกันและลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน

รีวิวจริงและผลลัพธ์ที่พิสูจน์ได้

รีวิวจริงพร้อมภาพก่อน–หลังที่โปร่งใส ทำให้ผู้สนใจมั่นใจและตัดสินใจได้ง่ายขึ้น

อ่านคู่มือศัลยกรรมโครงหน้าเกาหลีเพิ่มเติม

ใครบ้างที่เหมาะกับการทำตัดกราม

เช็กลิสต์สำหรับผู้ที่มีใบหน้าใหญ่หรือกรอบหน้าเหลี่ย

การตัดกรามเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาดังต่อไปนี้:

• กรามกว้างหรือเหลี่ยม ทำให้ใบหน้าดูใหม่หรือแข็งจนเกินไป

• ใบหน้าส่วนล่างไม่สมดุลกับหน้าผากหรือโหนกแก้ม

• ต้องการปรับรูปทรงหน้าให้เรียวขึ้นและสมส่วนมากขึ้น

• มีปัญหาโครงหน้าที่ทำให้ขาดความมั่นใจในบุคลิกภาพ

• เคยทำศัลยกรรมกรามมาก่อน แต่ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ ต้องการแก้ไขเพิ่มเติม

ข้อควรระวังและข้อห้ามในการผ่าตัด

ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับการตัดกราม โดยอาจไม่แนะนำในกรณีดังต่อไปนี้:

• ผู้ที่มีปัญหาสุขภาพรุนแรง เช่น โรคหัวใจ โรคปอด หรือโรคเรื้อรังที่ส่งผลต่อการดมยาสลบ

• ผู้ที่มีภาวะกระดูกหรือฟันผิดปกติ จำเป็นต้องแก้ไขด้วยทันตกรรมหรือจัดฟันก่อน

• ผู้ที่อายุน้อยเกินไป กระดูกยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่

• ผู้ที่คาดหวังผลลัพธ์เกินจริง ไม่สอดคล้องกับโครงสร้างใบหน้า

• ผู้ที่ไม่สามารถปฏิบัติตามคำแนะนำการดูแลหลังผ่าตัดได้อย่างเคร่งครัด

เทคนิคการตัดกรามที่ใช้ในปัจจุบัน

การตัดกรามมีหลายวิธี โดยแต่ละเทคนิคมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป การเลือกวิธีที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับลักษณะโครงหน้าและความต้องการของผู้เข้ารับการผ่าตัด ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ประเมินและแนะนำอย่างละเอียด

การตัดกรามแบบมาตรฐาน (Conventional)

เป็นการผ่าตัดโดยการตัดกระดูกกรามส่วนที่ยื่นหรือกว้างออก เพื่อปรับให้รูปหน้าดูสมส่วนมากขึ้น

• ข้อดี: เทคนิคที่ใช้กันมายาวนาน เหมาะกับผู้ที่ต้องการลดมุมกรามอย่างชัดเจน

• ข้อเสีย: อาจทำให้เกิดอาการบวมและพักฟื้นนานกว่าวิธีอื่น

การตัดกรามวีไลน์ (V Line) สไตล์เกาหลี

เป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยมในเกาหลี โดยไม่เพียงตัดกระดูกมุมกราม แต่ยังปรับแนวกรามและคางให้เรียวเป็นเส้นวีไลน์

• ข้อดี: ช่วยปรับรูปหน้าให้ดูเรียวยาวและละมุนมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงรูปหน้าอย่างชัดเจน

• ข้อเสีย: ขั้นตอนซับซ้อน ใช้เวลาผ่าตัดและพักฟื้นมากกว่าวิธีมาตรฐาน

การตัดกรามแบบแผลในปาก vs แผลนอกปาก

การตัดกรามแบบแผลในปาก

เป็นการเปิดแผลด้านในช่องปาก ไม่มีรอยแผลเป็นภายนอก

• ข้อดี: ไม่เห็นรอยแผลด้านนอก รูปลักษณ์เป็นธรรมชาติ

• ข้อเสีย: การผ่าตัดซับซ้อนขึ้น ต้องดูแลความสะอาดในช่องปากอย่างเคร่งครัด

การตัดกรามแบบแผลนอกปาก

เป็นการเปิดแผลบริเวณด้านนอกกราม เช่น ใต้ขากรรไกร

• ข้อดี: เหมาะกับผู้ที่ต้องตัดกระดูกปริมาณมาก แพทย์มองเห็นโครงสร้างได้ชัดเจน

• ข้อเสีย: อาจมีรอยแผลเป็นเล็กน้อยด้านนอก

สรุปข้อดีข้อเสียของแต่ละเทคนิค

• แบบมาตรฐาน: กรามลดลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ระยะเวลาการพักฟื้นนาน

• แบบวีไลน์: ปรับรูปทรงหน้าโดยรวมให้เรียวสมส่วน แต่ขั้นตอนการผ่าตัดซับซ้อนกว่า

• แผลในปาก: ไม่มีรอยแผลภายนอกให้เห็น แต่ต้องดูแลความสะอาดในช่องปากอย่างเข้มงวด

• แผลนอกปาก: ผ่าตัดง่ายและมองเห็นโครงสร้างชัดเจน แต่มีโอกาสเกิดรอยแผลด้านนอก

ดูรายละเอียดการผ่าตัดตัดกรามและเทคนิคที่โรงพยาบาลศัลยกรรมAB

ขั้นตอนการผ่าตัดและการพักฟื้น

การผ่าตัดตัดกรามเป็นศัลยกรรมที่ต้องใช้ความละเอียดสูง 

ทุกขั้นตอนตั้งแต่การเตรียมตัวไปจนถึงการพักฟื้นหลังผ่าตัดมีความสำคัญ 

เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ปลอดภัยและเป็นไปตามที่คาดหวัง

การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด

• พบแพทย์เพื่อรับคำปรึกษา ตรวจสุขภาพ และประเมินโครงสร้างใบหน้าด้วย การสแกน 3D CT

• งดสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนผ่าตัด

• แจ้งประวัติการใช้ยา โรคประจำตัว หรืออาการแพ้ยาให้แพทย์ทราบ

• เตรียมร่างกายให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ

ขั้นตอนการผ่าตัดโดยสรุป

1. ดมยาสลบ เพื่อให้คนไข้ผ่าตัดไม่รู้สึกเจ็บปวด

2. เปิดแผลในปากหรือดนอกปาก ขึ้นอยู่กับวิธีที่เหมาะสม

3. ตัดกกรามด้วยเครื่องมือพิเศษ เพื่อได้องศาที่ละมุ่น 

4. เย็บปิดแผล และใส่สายเดรนเลือดหากจำเป็น

5. พักฟื้นในโรงพยาบาล เพื่อสังเกตอาการในระยะแรก

การพักฟื้นและสิ่งที่ควรปฏิบัติ

ระยะเวลาในการพักฟื้น

• อาการบวมและช้ำจะเห็นได้ชัดใน 1–2 สัปดาห์แรก

• ส่วนใหญ่สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ภายใน 3–4 สัปดาห์

• กระดูกจะเข้าที่และใบหน้ามีความคงตัวมากขึ้นหลัง 3–6 เดือน

คำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังผ่าตัด

• ประคบเย็นใน 48 ชั่วโมงแรก เพื่อลดอาการบวม

• นอนยกศีรษะสูงกว่าระดับหัวใจในช่วงแรกหลังผ่าตัด

• รับประทานอาหารอ่อน เช่น โจ๊ก ข้าวต้ม หรือเครื่องดื่มที่มีสารอาหารครบถ้วน ใน 1–2 สัปดาห์แรก

• รักษาความสะอาดในช่องปาก โดยใช้น้ำยาบ้วนปากตามคำแนะนำของแพทย์

• งดออกกำลังกายหนัก สูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงพักฟื้น

• เข้าพบแพทย์ตามนัด เพื่อตรวจประเมินผลและดูแลแผล

ผลลัพธ์และความเสี่ยงที่ควรรู้

การตัดกรามเป็นการศัลยกรรมที่สามารถช่วยปรับรูปหน้าได้อย่างชัดเจน ผู้ที่กำลังวางแผนทำควรทำความเข้าใจทั้งผลลัพธ์ที่คาดหวังได้และข้อควรระวังในการดูแลตนเองหลังผ่าตัด

ผลลัพธ์ที่สามารถคาดหวังได้

• ใบหน้าดูเรียวและสมส่วนมากขึ้น

• ลดความแข็งและเหลี่ยมของใบหน้า ทำให้ภาพลักษณ์โดยรวมดูอ่อนโยน

• เสริมความมั่นใจในบุคลิกภาพและรูปลักษณ์

• หากทำร่วมกับการผ่าตัดอื่น เช่น การตัดโหนกแก้มหรือเสริมคาง จะช่วยให้โครงหน้าดูสมดุลยิ่งขึ้น

อาการทั่วไปหลังผ่าตัด

• อาการบวมและช้ำในช่วง 1–2 สัปดาห์แรก

• อาการชาเล็กน้อยบริเวณคางหรือริมฝีปาก ซึ่งมักจะค่อยๆ ดีขึ้นภายในไม่กี่เดือน

ข้อควรปฏิบัติ

• เลือกทำการผ่าตัดกับศัลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงหน้า

• ปฏิบัติตามคำแนะนำของศัลแพทย์อย่างเคร่งครัด ทั้งก่อนและหลังผ่าตัด

• เข้าพบศัลแพทย์ตามนัดเพื่อติดตามผลและดูแลต่อเนื่อง

• รักษาความสะอาดช่องปากและสุขภาพร่างกายในช่วงพักฟื้น

สอบถามค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดตัดกรามที่เกาหลี

รีวิวจริงจากคนไข้โรงพยาบาลศัลยกรรม AB

การตัดกรามเป็นศัลยกรรมที่ต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญของแพทย์และการดูแลอย่างใกล้ชิด ผลลัพธ์ที่ชัดเจนที่สุดมาจากรีวิวของผู้เข้ารับบริการจริง ซึ่งสะท้อนทั้งกระบวนการเปลี่ยนแปลงและความพึงพอใจได้อย่างตรงไปตรงมา

อ่านประสบการณ์ศัลยกรรมจริงจากผู้เข้ารับบริการเพิ่มเติม

รีวิวจริงจากคนไข้

เคสที่ 1: การตัดกรามและปรับกรอบหน้า

• ก่อนทำศัลยกรรม: กรอบหน้าดูกว้าง ทำให้ดูเหลี่ยมและใหญ่

• หลังทำศัลยกรรม: หลังผ่าตัด 3 เดือน ใบหน้าเรียวขึ้นอย่างเห็นได้ชัด กรอบหน้าดูสมดุลและเป็นธรรมชาติมากขึ้น

• ความเห็นจากคนไข้ท่านนี้: “ช่วงแรกมีอาการบวมและช้ำบ้าง แต่หลังพักฟื้น อาการค่อยๆ ดีขึ้น ทุกวันนี้รู้สึกมั่นใจมากขึ้น เวลาถ่ายรูปหรือเจอผู้คน ใบหน้าก็ดูอ่อนหวานขึ้นค่ะ”

เคสที่ 2: การผ่าตัดวีไลน์

• ก่อนทำศัลยกรรม: โครงหน้าดูแข็งและไม่สมดุล โดยเฉพาะช่วงคาง

• หลังทำศัลยกรรม: หลังผ่าตัด 6 เดือน ใบหน้าได้รูปมากขึ้น กรามและคางสมดุลกว่าเดิม

• ความเห็นจากคนไข้ท่านนี้:

• “เป็นการตัดสินใจที่ไม่ผิดหวังเลยค่ะ หลังพักฟื้นครบกำหนด หน้าเข้าที่เร็วและได้ผลลัพธ์ตรงใจมาก”

รีวิวจากอินฟล

เคสที่ 1: คุณ Binko Phapfah (Influencer

• ก่อนทำศัลยกรรม: มีปัญหากรามใหญ่ ทำให้กรอบหน้าดูไม่เรียว

• หลังทำศัลยกรรม: โครงหน้าชัดขึ้น กรอบหน้าเรียวเล็กลง ทำให้ถ่ายงานและถ่ายรูปออกมามีมิติมากขึ้น

• ความเห็นจาก คุณ Binko: “หลังผ่าตัดรู้สึกว่าหน้าเล็กลงมากจริงๆค่ะ เวลาออกกล้องหรือถ่ายรูป ผลลัพธ์ออกมาดูดีขึ้นเยอะ และมั่นใจมากขึ้นกว่าเดิม”

ดูรีวิวจากดาราและอินฟลูที่เลือกมาศัลยกรรมกับโรงพยาบาล AB ได้เพิ่มเติม

ทำไมต้องเลือกโรงพยาบาลศัลยกรรมAB ประเทศเกาหลีในการตัดกราม

ทีมศัลแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโครงหน้าโดยตรง

โรงพยาบาลศัลยกรรมAB มีทีมศัลยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการผ่าตัดโครงหน้าและตัดกรามโดยเฉพาะ ดูแลเคสซับซ้อนและยากมาแล้วจำนวนมาก จึงมั่นใจได้ว่าผลลัพธ์ที่ได้จะมีความสมดุลและเป็นธรรมชาติ

เทคโนโลยีทางการแพทย์ขั้นสูง

ใช้เครื่อง 3D CT สแกน และระบบจำลองโครงหน้าแบบละเอียด เพื่อวิเคราะห์โครงสร้างกระดูกก่อนผ่าตัด ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำ ลดความเสี่ยง และออกแบบผลลัพธ์ได้ตรงกับโครงหน้าแต่ละบุคคล

มาตรฐานความปลอดภัยระดับสากล

โรงพยาบาลศัลยกรรท AB ผ่านการรับรองมาตรฐานจากหน่วยงานทางการแพทย์ของเกาหลี ห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ ทีมวิสัญญีแพทย์ดูแลตลอดการผ่าตัด พร้อมระบบดมยาสลบทันสมัย เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของคนไข้

รีวิวจริงและความไว้วางใจจากคนไข้

ทั้งคนไข้และคนดังจากไทยและต่างประเทศไว้วางใจที่จะมาผ่าตัดกับ AB พร้อมผลลัพธ์ก่อน–หลังที่เห็นได้จากรูปรีวิว

รีวิวจริง ก่อน–หลัง ศัลยกรรมโครงหน้าเพิ่มเติม

บริการครบวงจรสำหรับคนไข้ชาวต่างชาติ

มีทีมล่ามภาษาไทยดูแลตั้งแต่ขั้นตอนปรึกษา ผ่าตัด ไปจนถึงติดตามผลหลังผ่าตัด

พร้อมบริกาทำให้ผู้รับบริการต่างชาติอุ่นใจตลอดการรักษา