ศัลยกรรมตัดปีกจมูกเกาหลี เพื่อจมูกเรียวเล็กและได้สัดส่วนอย่างเป็นธรรมชาติ

หลายคนอาจรู้สึกว่ารูปทรงจมูกของตนดูกว้างหรือขาดมิติ แม้จะมีสันจมูกที่โด่งอยู่แล้วก็ตาม การตัดปีกจมูกจึงเป็นหัตถการที่ช่วยปรับสัดส่วนจมูกให้ดูเรียวและสมดุลมากขึ้น โดยเน้นการลดความกว้างของปีกจมูกและรูจมูกให้เหมาะกับโครงหน้าโดยรวม

ศัลยกรรมตัดปีกจมูกเป็นการผ่าตัดขนาดเล็ก ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สามารถใช้ยาชาเฉพาะที่หรือยานอนหลับได้ตามความเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องนอนพักที่โรงพยาบาล หลังผ่าตัดสามารถกลับบ้านได้ทันที ระยะพักฟื้นเฉลี่ยประมาณ 7 วัน และตัดไหมภายใน 1 สัปดาห์

แพทย์จะออกแบบแนวแผลบริเวณรอยต่อระหว่างปีกจมูกและแก้ม เพื่อให้รอยแผลซ่อนอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ยาก นอกจากนี้ การดูแลแผลหลังผ่าตัดมีความสำคัญต่อการลดรอยแผลและช่วยให้จมูกเข้ารูปได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ตัดปีกจมูกคืออะไรและทำไมเทคนิคเกาหลีจึงได้รับความนิยม

การตัดปีกจมูก (Alar Reduction) คือการผ่าตัดเพื่อลดความกว้างของปีกจมูกหรือรูจมูก โดยมุ่งเน้นให้ได้ทรงจมูกที่เรียวและสมดุลกับโครงหน้า เหมาะสำหรับผู้ที่รู้สึกว่าปีกจมูกกว้างเกินไป ทำให้ปลายจมูกดูใหญ่หรือจมูกดูแบน ขาดมิติ

โดยทั่วไป เทคนิคการตัดปีกจมูกมีทั้งแบบ “เย็บด้านใน” และ “ตัดเย็บจากด้านนอก” ขึ้นอยู่กับลักษณะของจมูกและความกว้างของรูจมูก แพทย์จะออกแบบแนวผ่าตัดให้เหมาะกับแต่ละเคส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติและไม่กระทบต่อการหายใจ

เทคนิคแบบเกาหลีได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากให้ความสำคัญกับความสมดุลของใบหน้าโดยรวม ไม่เพียงแค่ลดขนาดปีกจมูกเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึงความสัมพันธ์ของระยะระหว่างดวงตา ความยาวของริมฝีปาก และมุมฐานจมูก เพื่อให้จมูกที่ได้ดูกลมกลืนและอ่อนโยนมากที่สุด

นอกจากนี้ การตัดปีกจมูกแบบเกาหลีมักใช้วิธีซ่อนแผลบริเวณรอยต่อระหว่างปีกจมูกและแก้ม ทำให้รอยแผลเห็นได้ยากและหายเร็ว อีกทั้งยังสามารถใช้ร่วมกับการเสริมจมูกหรือปรับปลายจมูก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ในครั้งเดียว

ลักษณะจมูกที่เหมาะกับการตัดปีกจมูก

การตัดปีกจมูกไม่ได้เหมาะกับทุกคน แต่จะเหมาะกับผู้ที่มีลักษณะจมูกบางประเภทซึ่งทำให้รูปร่างจมูกดูใหญ่หรือกว้างเกินไป การประเมินโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถเลือกเทคนิคการผ่าตัดที่เหมาะสมและได้ผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติที่สุด

ลักษณะจมูกที่มักเหมาะกับการตัดปีกจมูก ได้แก่

• ผู้ที่มีปีกจมูกกว้างและแบน ทำให้ปลายจมูกดูไม่โด่งหรือขาดมิติ

• ผู้ที่มีเนื้อเยื่อและไขมันบริเวณปลายจมูกมาก ซึ่งทำให้รูจมูกดูกว้างและหนา

• ผู้ที่มีกระดูกอ่อนปลายจมูกขนาดใหญ่ ส่งผลให้จมูกดูบานจากมุมมองด้านหน้า

• ผู้ที่รูจมูกมีฐานกว้างกว่าระยะระหว่างดวงตา ทำให้จมูกไม่สอดคล้องกับโครงหน้าโดยรวม

• ผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนจมูกให้ดูเรียวเล็กขึ้นหลังการเสริมจมูก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้น

ในการวิเคราะห์จมูก แพทย์จะพิจารณาทั้งความกว้างของรูจมูก ความหนาของผิวหนัง และความสมดุลของใบหน้า เช่น ระยะห่างระหว่างดวงตาและมุมฐานจมูก เพื่อกำหนดว่าควรใช้เทคนิคแบบเย็บด้านในหรือตัดเย็บจากด้านนอกจึงจะเหมาะสมที่สุด

ขั้นตอนและเทคนิคการผ่าตัดแบบโรงพยาบาลศัลยกรรม AB

การตัดปีกจมูกเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความละเอียดและความแม่นยำในการออกแบบแนวแผล เพื่อให้ได้จมูกที่เรียวสวยโดยไม่กระทบต่อการหายใจ ใช้เวลาผ่าตัดประมาณ 30 นาที ภายใต้ยาชาเฉพาะที่หรือยานอนหลับแบบเบา โดยทั่วไปขั้นตอนการผ่าตัดแบ่งออกได้ดังนี้

ประเมินและออกแบบแนวผ่าตัด

ก่อนเริ่มผ่าตัด แพทย์จะประเมินลักษณะโครงสร้างของจมูก เช่น ความกว้างของฐานจมูก ความหนาของผิว และระยะห่างระหว่างรูจมูก เพื่อวางแผนแนวผ่าตัดให้เหมาะสม แนวแผลมักถูกออกแบบให้อยู่บริเวณรอยต่อระหว่างปีกจมูกและแก้ม เพื่อให้สามารถซ่อนรอยแผลได้ดีหลังผ่าตัด

เทคนิคการลดปีกจมูก

มีสองวิธีหลักในการลดขนาดปีกจมูก ซึ่งแพทย์จะเลือกใช้ตามลักษณะของจมูกของแต่ละบุคคล

• เทคนิคแบบเย็บด้านใน: เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานรูจมูกกว้างแต่เนื้อจมูกไม่หนามาก แพทย์จะเย็บดึงฐานรูจมูกเข้าหากันโดยไม่ต้องตัดเนื้อออกมาก

• เทคนิคแบบตัดเย็บจากด้านนอก: เหมาะสำหรับผู้ที่มีเนื้อหรือไขมันส่วนเกินบริเวณปีกจมูก โดยแพทย์จะตัดเนื้อบางส่วนออกแล้วเย็บกลับอย่างละเอียด เพื่อให้จมูกดูเรียวและได้รูปมากขึ้น

การเย็บแผลและตรวจเช็ครูปทรง

หลังจากตัดหรือเย็บลดปีกจมูกเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะเย็บแผลด้วยไหมละลายหรือไหมธรรมดาตามลักษณะผิวของผู้เข้ารับบริการ เพื่อให้แผลเรียบและลดความเสี่ยงของรอยแผลเป็น ก่อนจบการผ่าตัดจะมีการตรวจเช็คความสมมาตรของรูจมูกทั้งสองข้าง เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสมดุลและเป็นธรรมชาติที่สุด

จุดเด่นของเทคนิคแบบเกาหลี

เทคนิคการตัดปีกจมูกแบบเกาหลีจะให้ความสำคัญกับ “ความสมดุลของสัดส่วน” มากกว่าการลดขนาดเพียงอย่างเดียว โดยจะคำนวณมุมฐานของจมูก ความกว้างของรูจมูก และระยะห่างระหว่างดวงตา เพื่อปรับให้จมูกดูเรียวเล็กอย่างพอดีและกลมกลืนกับใบหน้าโดยรวม
 

ระยะพักฟื้นและคำแนะนำการดูแลหลังตัดปีกจมูก

การพักฟื้นหลังการตัดปีกจมูกถือว่าใช้เวลาสั้นกว่าการผ่าตัดจมูกประเภทอื่น แต่ยังต้องดูแลอย่างเหมาะสมเพื่อให้แผลหายเร็วและรูปทรงคงที่มากที่สุด โดยทั่วไปจะใช้เวลาพักฟื้นประมาณ 7 วัน และสามารถกลับไปทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติหลังตัดไหม

ระยะเวลาการพักฟื้นโดยทั่วไป

• วันแรก–วันที่ 2: ควรประคบเย็นบริเวณจมูกเพื่อลดอาการบวมและช้ำ หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือก้มศีรษะบ่อย ๆ

• สัปดาห์ที่ 1: ตัดไหมและตรวจเช็คแผลที่โรงพยาบาล สามารถล้างหน้าได้ตามปกติหลังตัดไหม

• สัปดาห์ที่ 2: อาการบวมจะลดลงอย่างชัดเจน ควรหลีกเลี่ยงการแต่งหน้าแรง ๆ หรือการกดจมูก

• หลังสัปดาห์ที่ 3: รูปทรงจมูกจะเริ่มเข้าที่ สามารถกลับมาออกกำลังกายเบา ๆ ได้

การดูแลแผลหลังผ่าตัด

• รักษาความสะอาดบริเวณแผลและซับน้ำเกลือเบา ๆ ทุกวัน

• หลีกเลี่ยงการสัมผัสแผลหรือแกะสะเก็ด

• งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และการสูบบุหรี่ประมาณ 2 สัปดาห์ เพื่อป้องกันการอักเสบ

• นอนยกศีรษะสูงในช่วง 3–5 วันแรก เพื่อช่วยลดอาการบวม

• หากมีอาการบวมผิดปกติหรือปวดมาก ควรติดต่อโรงพยาบาลทันที

การดูแลเสริมเพื่อลดบวมและฟื้นฟูแผล

ในบางกรณีแพทย์อาจแนะนำให้ใช้เครื่องมือบำบัดทางการแพทย์เพื่อช่วยให้แผลฟื้นตัวเร็วขึ้น เช่น

• LED SmartLux: ใช้แสง LED พลังงานต่ำกระตุ้นการไหลเวียนเลือด ลดบวมและรอยช้ำ

• LDM (Local Dynamic Micro-massage): ใช้คลื่นเสียงความถี่ต่ำเพื่อฟื้นฟูผิวและลดการอักเสบ

• เลเซอร์พลังงานความถี่สูง: กระตุ้นระบบหมุนเวียนน้ำเหลืองและเร่งการสมานของแผล

การดูแลในช่วงพักฟื้นเป็นส่วนสำคัญที่ส่งผลโดยตรงต่อผลลัพธ์ของการตัดปีกจมูก หากปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด จะช่วยให้จมูกเข้ารูปสวยเป็นธรรมชาติและลดความเสี่ยงของรอยแผลเป็นได้มากที่สุด

เปรียบเทียบการตัดปีกจมูกแบบเย็บด้านในและด้านนอก

เทคนิคการตัดปีกจมูกมีอยู่ 2 รูปแบบหลัก คือ แบบเย็บด้านใน และ แบบตัดเย็บจากด้านนอก

ทั้งสองเทคนิคมีเป้าหมายเหมือนกันคือทำให้รูจมูกแคบลงและได้สัดส่วนสมดุลกับใบหน้า

แต่จะแตกต่างกันในด้านลักษณะของแนวแผล วิธีการผ่าตัด และระยะเวลาการพักฟื้น

การตัดปีกจมูกแบบเย็บด้านใน

เทคนิคนี้เป็นการลดความกว้างของฐานรูจมูก โดยไม่ต้องตัดเนื้อเยื่อออก

แพทย์จะทำการเย็บดึงฐานรูจมูกจากด้านในให้เข้ามาใกล้กัน เพื่อให้รูจมูกดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ

ขั้นตอนการผ่าตัด:

• Step 1: แพทย์จะสอดไหมเข้าไปบริเวณฐานปีกจมูกทั้งสองข้าง

• Step 2: ดึงไหมเข้าหากันเพื่อลดความกว้างของรูจมูก

• Step 3: รูปทรงจมูกจะดูได้สัดส่วนและสมมาตรจากมุมมองด้านหน้าและด้านล่าง

เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีฐานรูจมูกกว้างแต่เนื้อจมูกบาง ไม่ต้องการผ่าตัดใหญ่หรือมีแผลภายนอก

ข้อดี:

• ไม่มีรอยแผลภายนอก มองไม่เห็นรอยเย็บ

• ระยะพักฟื้นสั้น ฟื้นตัวเร็วและบวมน้อย

• เหมาะกับผู้ที่ต้องการปรับสัดส่วนจมูกเพียงเล็กน้อย

ข้อจำกัด:

• ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกหนาหรือฐานกว้างมาก

• ผลลัพธ์อาจไม่ชัดเจนในกรณีที่ต้องการปรับรูจมูกอย่างมาก

การตัดปีกจมูกแบบตัดเย็บจากด้านนอก

เทคนิคนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีปีกจมูกหนา มีเนื้อเยื่อและไขมันมาก

แพทย์จะตัดเนื้อบางส่วนออกบริเวณรอยต่อระหว่างปีกจมูกและแก้ม แล้วเย็บแผลกลับอย่างละเอียด เพื่อให้รูจมูกเรียวและได้รูป

ขั้นตอนการผ่าตัด:

• Step 1: กรีดแนวรอยต่อระหว่างปีกจมูกและแก้ม

• Step 2: แยกและจัดตำแหน่งชั้นเนื้อเยื่อ รวมถึงเย็บปิดแบบ Double-Suture เพื่อให้ทรงคงที่

• Step 3: รูจมูกจะดูแคบลงและปลายจมูกได้สัดส่วนกับใบหน้า

ข้อดี:

• ปรับรูปร่างจมูกได้ชัดเจน เหมาะสำหรับเคสที่ปีกจมูกหนาและใหญ่

• ผลลัพธ์คงทน สามารถออกแบบตามความต้องการของผู้เข้ารับบริการได้

• รูปทรงโดยรวมดูได้สัดส่วนและสมมาตร

ข้อจำกัด:

• มีแผลภายนอก แม้จะซ่อนในรอยต่อจมูกและแก้มแต่ต้องดูแลให้ดี

• ใช้เวลาพักฟื้นนานกว่าแบบเย็บด้านในเล็กน้อย

การเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคล

การเลือกเทคนิคขึ้นอยู่กับลักษณะของจมูกแต่ละบุคคล เช่น

ความหนาของผิว ปริมาณเนื้อเยื่อปีกจมูก และระดับความกว้างของฐานรูจมูก

โดยทั่วไป แพทย์จะประเมินจากทั้ง มุมมองด้านหน้าและด้านล่างของจมูก เพื่อให้แน่ใจว่ารูปร่างสุดท้ายมีความสมมาตรและเข้ากับใบหน้าโดยรวม

นอกจากนี้ การผ่าตัดแบบเกาหลีจะให้ความสำคัญกับ ความสมดุลของสัดส่วน (Proportion Balance)

โดยพิจารณาให้ความกว้างของรูจมูกเท่ากับระยะระหว่างดวงตา และแคบกว่าความกว้างของริมฝีปาก

รวมถึงมุมฐานของจมูก (Base Angle) ประมาณ 2.1 องศา เพื่อให้จมูกดูได้รูปและกลมกลืนกับใบหน้าอย่างเป็นธรรมชาติ

รีวิวเคสจริงก่อน–หลังจากโรงพยาบาลศัลยกรรม AB ประเทศเกาหลี

ศัลยกรรมตัดปีกจมูก เป็นหนึ่งในหัตถการที่ให้ผลลัพธ์เห็นได้ชัดภายในระยะเวลาไม่นาน โดยผู้เข้ารับการผ่าตัดส่วนใหญ่สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลงได้ตั้งแต่ช่วง 1–2 สัปดาห์แรก และผลลัพธ์จะเข้าที่อย่างสมบูรณ์ภายในประมาณ 1 เดือน

เคสตัวอย่าง – ปีกจมูกกว้างและหนา

ผู้เข้ารับบริการรายนี้มีปัญหาปีกจมูกหนาและรูจมูกกว้าง ทำให้ปลายจมูกดูใหญ่จากมุมด้านหน้า หลังจากเข้ารับการตัดปีกจมูกแบบ External Alar Resection พบว่ารูจมูกแคบลงและปลายจมูกดูเรียวขึ้นอย่างเป็นธรรมชาติ โดยรอยแผลถูกซ่อนไว้บริเวณรอยต่อระหว่างปีกจมูกและแก้ม ทำให้แทบมองไม่เห็นเมื่อแผลหายดี

• ระยะเวลาพักฟื้น: ประมาณ 7 วัน

• ผลลัพธ์หลัง 1 เดือน: จมูกได้รูปขึ้น และไม่มีรอยแผลเป็นที่ชัดเจน

เคสตัวอย่าง – ฐานรูจมูกกว้างแต่เนื้อจมูกบาง

ในเคสนี้ ผู้เข้ารับบริการมีฐานรูจมูกที่กว้างแต่ผิวบาง แพทย์เลือกใช้เทคนิค เย็บด้านใน (Internal Alar Reduction) โดยไม่ต้องตัดเนื้อออก ผลลัพธ์หลังผ่าตัดทำให้จมูกดูสมส่วนขึ้นจากด้านล่าง รูจมูกทั้งสองข้างมีความสมมาตรและไม่มีรอยแผลภายนอก

• ระยะเวลาพักฟื้น: ประมาณ 5–7 วัน

• ผลลัพธ์หลัง 3 สัปดาห์: รูปทรงจมูกเข้าที่และดูเป็นธรรมชาติกับใบหน้า

ผลลัพธ์ที่สังเกตได้หลังตัดปีกจมูก

• รูจมูกดูเรียวและสมมาตรมากขึ้น

• ปีกจมูกไม่กว้างหรือบานออกเมื่อมองจากด้านหน้า

• ปลายจมูกดูกลมกลืนกับแนวสันจมูกและริมฝีปาก

• โครงหน้าดูละมุนและสมดุลโดยรวม

ผลลัพธ์ของการตัดปีกจมูกจะค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นเมื่ออาการบวมลดลง ซึ่งโดยทั่วไปภายใน 3–4 สัปดาห์จมูกจะเริ่มเข้ารูปอย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนเมื่อเปรียบเทียบกับภาพก่อนการผ่าตัด

ทำไมต้องเลือกตัดปีกจมูกที่โรงพยาบาลศัลยกรรม AB ประเทศเกาหลี

การตัดปีกจมูกเป็นหัตถการที่ต้องอาศัยความละเอียดสูง ทั้งในด้านการออกแบบแนวผ่าตัด การประเมินโครงสร้าง และการเย็บแผลอย่างแม่นยำ

โรงพยาบาลศัลยกรรม AB ประเทศเกาหลี มีทีมศัลยแพทย์เฉพาะทางด้านจมูกที่มีประสบการณ์ยาวนานและเข้าใจลักษณะโครงสร้างของชาวเอเชียอย่างลึกซึ้ง ทำให้สามารถออกแบบทรงจมูกที่เหมาะกับแต่ละบุคคลได้อย่างแม่นยำ

นอกจากนี้ โรงพยาบาลศัลยกรรม AB ยังได้รับการรับรองจาก กระทรวงยุติธรรมแห่งประเทศเกาหลี ให้เป็นหนึ่งใน “สถาบันการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ที่ได้รับรางวัลยอดเยี่ยมประจำปี 2025 (Best Award 2025)” ซึ่งเป็นรางวัลที่มอบให้กับสถาบันที่มีมาตรฐานสูงในการให้บริการแก่ผู้เข้ารับการรักษาจากต่างประเทศ ทั้งในด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และการดูแลอย่างครบวงจร

การได้รับการรับรองนี้สะท้อนถึงมาตรฐานการรักษาระดับสากลของโรงพยาบาล และความไว้วางใจจากผู้ป่วยชาวต่างชาติที่เลือกเดินทางมาศัลยกรรมในประเทศเกาหลีอย่างต่อเนื่อง

การวิเคราะห์และวางแผนก่อนผ่าตัดอย่างละเอียด

ก่อนการผ่าตัดทุกครั้ง จะมีการสแกนและวิเคราะห์โครงสร้างจมูกด้วยระบบ 3D-CT เพื่อให้แพทย์สามารถประเมินตำแหน่งของกระดูกอ่อน ผิวหนัง และเนื้อเยื่อได้อย่างครบถ้วน การวิเคราะห์นี้ช่วยลดความเสี่ยงของความไม่สมมาตรและทำให้ผลลัพธ์ออกมาใกล้เคียงธรรมชาติมากที่สุด

ระบบดูแลความปลอดภัยระหว่างผ่าตัด

ในระหว่างการผ่าตัด วิสัญญีแพทย์จะดูแลผู้ป่วยแบบ 1:1 ตลอดขั้นตอน พร้อมระบบมอนิเตอร์ชีพจรและความดันโลหิตแบบเรียลไทม์ เพื่อให้การวางยามีความปลอดภัยสูงสุด รวมถึงการตรวจสุขภาพก่อนผ่าตัดเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น

การดูแลหลังผ่าตัดและการติดตามผล

หลังผ่าตัด โรงพยาบาลมีระบบติดตามผลอย่างต่อเนื่อง ทั้งการตรวจเช็คแผล การดูแลรอยเย็บ และการใช้เครื่องมือบำบัดเพื่อลดบวม เช่น LED SmartLux และ LDM Therapy รวมถึงให้คำแนะนำการดูแลตนเองอย่างละเอียด เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการสามารถฟื้นตัวได้อย่างปลอดภัยและมั่นใจในผลลัพธ์

การบริการสำหรับผู้เข้ารับบริการชาวไทย

โรงพยาบาลศัลยกรรม AB ประเทศเกาหลี มีเจ้าหน้าที่ชาวไทยประจำโรงพยาบาล เพื่อให้คำปรึกษาและดูแลตลอดขั้นตอน ตั้งแต่การแปลภาษา การเตรียมเอกสาร ไปจนถึงการดูแลช่วงพักฟื้น เพื่อให้ผู้เข้ารับบริการจากประเทศไทยได้รับประสบการณ์ที่สะดวกและปลอดภัยมากที่สุด

หากต้องการอ่านรีวิวจากผู้เข้ารับบริการชาวไทยเพิ่มเติม

สามารถดูได้ที่หน้า รีวิวศัลยกรรมจริงจากผู้ใช้บริการชาวไทย

หรือหากต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาและแพ็กเกจศัลยกรรม

สามารถส่งคำถามผ่านหน้า สอบถามราคา–ศัลยกรรมเกาหลี